วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

10อันดับตำนานแฮกเกอร์ของโลก



อันดับที่ 10 Jonathan James


              ตอน ที่หมอนี่โดนจับ ทั่วทั้งอเมริกาแตกตื่น เพราะหมอนี่อายุเพียง 15ปีเท่านั้น Jonathan James หรือชื่อรหัสในโลก Hacker ก็คือ c0mradeได้สร้างชื่อด้วยการเจาะระบบมากมาย ตั้งแต่บริษัทโทรศัพท์ BellSouthไปจนถึงหน่วยงาน DTRA ในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี 1999หมอนี่ Hack เข้าไปฝังตัว Backdoor ใน Nasaซึ่งทำให้อ่านข้อมูลลับได้มากมายรวมไปถึงขโมยโปรแกรมที่ทาง Nasaพัฒนาขึ้นด้วยเงินมหาศาลถึง 1.7 ล้านดอลล่าร์สหรัฐไปหน้าตาเฉยซึ่งในภายหลังทาง Nasa ต้องปิดระบบถึงสามสัปดาห์เพื่อแก้ไขทำให้สูญเสียเงินไปอีก 41,000 $?? ปล. หมอนี่บอกกับศาลว่าเค้าอยากได้โปรแกรมมาเพื่อฝึกฝีมือภาษา C ของตัวเองเท่านั้นแต่พอขโมยมาได้ ก็กลับถามว่าโปรแกรมห่วยๆนั่นมีค่าถึง 1.7ล้านดอลล่าร์เลยเชียวหรือ ปลใปัจจุบันหมอนี่ตายไปแล้ว




อันดับที่ 9 Adrian Lamo

                 อีตานี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Hacker ที่แสบไม่แพ้กัน ซึ่งคนที่โดน Adrian Lamoเจาะเข้าไป ก็มีตั้งแต่ หนังสือพิมพ์ The New York Times , Microsoft ,Yahoo , Bank of America , CitiGroup และ Cingularซึ่งที่ๆสร้างชื่อเสียงที่สุดให้เขาก็คือ การที่เขาเจาะเข้าไปใน The NewYork Times และเอาชื่อตัวเองเข้าไปใส่ไว้ในแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ระดับสูงของหนังสือ พิมพ์ The New York Timesและใช้บัญชีของนักเขียนชื่อดัง LexisNexisในการค้นคว้างานวิจัยจากฐานข้อมูลของ The New York Times อีกด้วย?หลังจากที่ใช้กรรม ไปมากมาย ตอนนี้ Adrian Lamo ทำงานเป็นนักข่าวและนักพูด เกี่ยวกับวงการ Hackerและพึ่งจะได้รับรางวัลนักข่าวยอดเยี่ยมมาไม่นานนี้เอง



อันดับที่ 8 Kevin Mitnick

                    นี่คือชายที่ ครั้งหนึ่ง กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐเคยหมายหัวไว้ว่า"อาชญากรทางคอมพิวเตอร์ที่ทางสหรัฐ ต้องการตัวมากที่สุด"เพราะเขาคือคนแรกที่ทำให้คำว่า Hacker โด่งดังไปทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้ผลงานของ Mitnick อาจจะเก่าไปซักหน่อย เพราะพี่ท่านเล่น Hackมาตั้งแต่ช่วงปี 70' กับผลงานการเจาะระบบ Punch Card ของ Los Angeles BusSystem ทำให้เขาสามารถขึ้นรถเมล์ได้ฟรีตั้งกะอายุ 12.เข้าไปป่วนระบบโทรศัพท์ทำให้โทรทางไกลได้ฟรีๆ จากนั้นก็ขโมยข้อมูลของบริษัทคอมพิวเตอร์ชื่อดังอย่าง DEC (Digital EquipmentCorporation) ตามด้วยหน่วยงานด้านการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ โอ๊ยอีตานี่แสบๆๆ หลังจากที่ไปรับกรรมในคุกอยู่สองปีครึ่งตอนนี้เค้าก็กลายเป็น Hackerที่หลายๆบริษัทขอความช่วยเหลือในการตรวจสอบระบบครับ(และสำคัญมากเป็น เพราะอีตานี่เองที่ทำให้โลกเราได้รู้จัก White-Hat สาดเลือดเอเชียที่เก่งกาจ)



อันดับที่ 7 Kevin Poulsen

             มีชื่อเรียกสวย เก๋ในวงการแฮกเกอร์ว่า Dark Dante, ผลงานเด่นๆของ KevinPoulsen ก็คือการที่เค้าเจาะระบบโทรศัพท์ของสถานีวิทยุ KIIS-FM ใน LAทำให้เค้าได้รางวัลรถ Porsche มาครอง และที่เด่นๆ ก็คืออีตานี่แหย่หนวดเสือไป เจาะระบบฐานข้อมูลของ FBI ครับ และที่สำคัญก็คือระบบดักฟังของ FBI ครับ หลังจากที่ Kevin Poulsen โดนซิวไป 5 ปีตอนนี้เค้าก็กลายเป็น นักข่าวอาวุโสของสำนักข่าว Wired Newsและคอยช่วยเหลือในการไล่จับพวก BlackHat คนอื่นๆอีกมากมาย



อันดับที่ 6 Robert Tappan Morris

             เขา คือลูกชายของอดีตเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ ของ NSA (National SecurityAgency) แท้ๆแต่ดันใช้ความรู้ในทางที่ผิดก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านไปทั่วเพราะหมอ นี่แหละครับคือคนแรกที่สร้าง Worm ขึ้นมาและทำให้ระบบเครือข่ายพังทลายไปหลายวันเลยทีเดียว ขณะที่ Morrisกำลังเรียนอยู่ที่ Cornell เค้าอยากรู้ว่าอินเทอร์เน็ตมันใหญ่ขนาดไหนเค้าก็เลยสร้างโปรแกรมที่มันจะ เจาะไปได้เรื่อยๆ ไปๆมาๆนั่นกลายเป็นเวิร์มตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า MorrisWormหลังจากนั้นคอมพิวเตอร์กว่า 6,000เครื่องทั่วโลกก็เจ๊งยับเพราะเวิร์มของหมอนี่ พอโดนจับ Morris ก็โดนลงโทษจำคุก 3 ปีและโดนค่าปรับ10,500 เหรียญและ ทำงานช่วยเหลือสังคมอีก 400 ชม.(ลงโทษขนาดนี้แรงไปไหมพี่ เบากว่านี้ได้อีกนะ ) และหลังจากที่รับกรรมไปแล้ว ตอนนี้Robert Morris ก็เป็นอาจารย์สอนหนังสืออยู่ ที่ MIT



อันดับที่  5 Stephen Wozniak

               พูดถึง Apple Computer ใครๆก็อาจจะนึกถึง Steve Jobsชายหนุ่มหัวแอบล้านซึ่งหลายๆคนรอคอย KeyNote ของเค้าในงาน MacWorldConference ทุกปี แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆแล้วถ้า Apple Computerขาดเค้าคนนี้ไปล่ะก็ มันจะไม่มีวันนี้แน่นอน เพราะ Steve Wozniakคือผู้่ร่วมก่อตั้ง Apple Computer ครับ?การเป็น Hackerช่วงแรกของเค้าอยู่ที่เค้าได้ไปอ่านบทความเรื่องการเจาะระบบโทรศัพท์ ในหนังสือ Esquire เข้าหลังจากที่คุยกับ Steve Jobs พวกเขาก็ได้คิดค้น BlueBoxเครื่องเจาะระบบโทรศัพท์ที่ทำให้คุณสามารถ โทรทางไกลได้ฟรีๆ (เอาเข้าไป)มีครั้งหนึ่ง Steve Wozniak ได้แอบใช้เครื่อง BlueBox โทรหาพระสันตปาปาโดยปลอมตัวว่าเป็น Henry Kissingerรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐในตอนนั้นแสบจริงๆ?สำหรับ ช่วงแรกของการก่อตั้ง Apple Computer. Wozniakได้ขายเครื่องคิดเลขแสนแพงของเขา และ Jobs ได้ขายรถแวนของเขาเพื่อเป็นทุนในการก่อตั้ง Apple Computer ครับ และสุดท้ายเครื่อง Apple Iก็วางตลาด และทั้งคู่ได้ขายเครื่องนี้ในราคาเครื่องละ 666.66$


อันดับที่ 4 Tim Berners-Lee

               ต้องขอบอกว่า ถ้าไม่มีอีตานี่โลกเราจะไม่มีคำว่า World Wide Web เพราะเขาคนนี้คือ คนที่ คิดค้น www ขึ้นบนโลก. Tim Berners-Leeเป็นลูกของสองนักคณิตศาสตร์ระดับโลก Convey และ ?Mary Berners-Leeซึ่งเป็นทีมสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์ Manchester Mark 1เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นแรกๆของโลก ในปี 2532 Tim Berners-Lee ทำงานเป็นFreeLance อยู่ที่ CERN (ศูนย์วิจัยเรื่องนิวเคลียร์ของยุโรป)ซึ่งเป็นเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่ใหญ่ ที่สุดของยุโรปเขาได้คิดค้นระบบข้อความหลายมิติ (Hypertext) ขึ้นมา ซึ่งเมื่อมันผนวกเข้ากับ TCP และ DNSล่ะก็ มันจะเป็นความสุดยอดของ HyperText แน่นอนและหลังจากนั้นมันจึงกลายเป็น World Wide Web เมื่อปี 2548เขาได้รับรางวัล 1 ในร้อยบุคคลที่ทรงอิทธิพลต่อคนทั้งโลกมากที่สุด และในปี2550 Tim Berners-Lee ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฝ่ายหน้าจากสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซา เบทที่สอง เป็นการส่วนพระองค์ทำให้ตอนนี้เค้ากลายเป็น Sir Tim Berners-Lee ไปแล้วครับ?ผลงานการ Hackของ Tim Berners-Lee ไม่เป็นที่ปรากฏ แต่ว่าเรื่องนี้ก็ทำให้เค้าโดนไล่ออกจากมหาวิทยาลัย Oxford ล่ะ ปล.เว็บไซต์แรกของโลกคือ Welcome to info.cern.ch สร้างขึ้นโดย Tim Berners-Lee นี่แหละ



อันดับที่ 3 Linus Torvalds

                 บิดาผู้ให้กำเนิด Linux ระบบปฏิบัติการ Unixที่คนนิยมกันมากที่สุดในโลกขณะนี้ ในปี 1991ขณะที่เขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เฮลซิงกิ เขาได้สร้าง linux kernelขึ้นจากพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ Minix ขึ้น หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมสมัครพรรคพวกมาช่วยกันเขียนและช่วยกันพัฒนาต่อกันทาง อินเทอร์เน็ต โดยที่เขาเป็นคนรวบรวม ตรวจสอบและแจกจ่ายงานไปยังโปรแกรมเมอร์ต่างๆทั่วโลกรวมถึงแจกจ่ายให้คนช่วย กันเอาไปใช้ฟรีๆอีกด้วยจุดที่น่าสนใจของโครงการนี้ก็คือ ทุกคนที่มาร่วมทำนั้นทุกคนยินดีช่วยโดยไม่ได้ค่าตอบแทนแต่อย่างใด และมีเงื่อนไขต่อด้วยอีกว่าเมื่องานเสร็จแล้วจะต้องเผยแพร่ตัว Source Codeแก่สาธารณะโดยไม่คิดมูลค่าเช่นเดียวกันครับ?ทุกวันนี้ Linux Torvaldsทำงานอยู่ที่บริษัท Transmeta บริษัทที่ทำหน้าที่ออกแบบ CPUและยังคงดำรงตำแหน่ง ผู้นำของบรรดาผู้ใช้งานและพัฒนา Linux ทั้งโลกครับยิ่งไปกว่านั้น หนังสือ Times Magazine ได้ยกให้เค้าเป็นหนึ่งคนในหนังสือชื่อ 60 Years of Hero สุดยอด


   
อันดับที่ 2 Richard Stallman

                 ผู้ริเริ่มโครงการ GNU (อ่านว่า กนู นะครับ) และมูลนิธิซอฟท์แวร์เสรีรวมไปถึงผู้ริเริ่มแนวคิดเรื่อง Copyleft (ฮ่า)และเป็นผู้ร่างสัญญาอนุญาติให้ใช้ได้ทั่วไป และต่อในภายหลังสัญญานี้ได้กลายเป็น บรรทัดฐานซอฟท์แวร์เสรีจำนวนมากความเป็นแฮกเกอร์ของเค้าโผล่มาตอนที่เค้าทำ งานอยู่ที่ MIT ในฐานะของ StaffComputer ทุกครั้งที่มีระบบอะไรใหม่ๆติดตั้งเข้าไปและมีรหัสผ่านกำกับอยู่Richard Stallman จะหาทางแฮกและปลดรหัสผ่านออกทุกครั้ง ยังครับยังไม่พอพอแฮกระบบเสร็จก็แฮก Printerต่อเพื่อพิมพ์ข้อความบอกชาวบ้านว่าระบบไหนอยู่ที่ไหนปลดรหัสผ่านอะไร ไปแล้วบ้าง แสบจริงๆ



อันดับที่ 1  Tsutomu Shimomura

                  สุดยอด White-Hat สายเลือดเอเชีย Tsutomu Shimomuraได้รับชื่อเสียงอย่างโด่งดัง ในฐานะที่ร่วมมือกับ John Markoffในการช่วยเหลือ FBI ไล่จับสุดยอดแฮกเกอร์ของโลกในยุคนั้น นั่นก็คือ KevinMitnick นั่นเอง  Tsutumu ทำงานเป็นนักวิจัยอยู่ที่ SDSC (San DiegoSupercomputer Center) ซึ่งจริงๆแล้วก็โดนอีตา Kevinเข้ามาแฮกเอาโปรแกรมและเมล์สำคัญๆไป ดังนั้นด้วยคาวมแค้นเขาจึงร่วมมือกับFBI ไล่จับ Kevin Mitnick ซึ่งต่อมาเมื่อเขาจับได้เขาก็เลยเขียนหนังสือชื่อ Takedown เป็นเรื่องราวของการไล่จับ KevinMitnick ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง TakeDown ด้วย

โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก

:: Augusta Lovelace Ada คือ โปรแกรมเมอร์คนแรกของโลก
:: Edsger Wybe Dijkstra ใช้คำว่า โปรแกรมเมอร์ (Programmer) กับโลกของคอมพิวเตอร์เป็นคนแรก [ อ้างอิง ]


Lady Augusta Ada Byron, Coutress of Lovelace เป็นบุตรสาวของท่าน Lord Byron แต่พอเกิดมาไม่นานบิดามารดาของ เธอก็แยกทางกัน คุณแม่ของ Lady Ada จึงตัดสินใจเลี้ยงดูเธอให้เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ให้ศึกษาด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ต่างไปจาก lady ตระกูลใหญ่ๆ ของอังกฤษทั่วไป

พออายุ 17 ปี Ada ถูกแนะนำให้รู้จัก Mrs. Somerville ผู้หญิงเก่งแห่งยุคที่เคยแปลงานของ Laplace มาเป็นภาษาอังกฤษที่เคมบริดจ์ Ada จึงเข้ามาคลุกคลีกับเพื่อนกลุ่มนี้จนได้รู้จักกับ Babbage ในที่สุดที่งาน Party แห่งหนึ่งตอนที่ Babbage กล่าวว่า "what if a calculating engine could not only foresee but could act on that foresight". ในงานวันนั้นไม่มีใครสนใจแนวคิดนี้ของ Babbage เลยยกเว้น Ada ผู้ซึ่งรู้สึกสนใจในงานนี้เป็นอย่างมากจนอาสาที่จะช่วยพัฒนา โดยสิ่งที่เธอทำคือการคิดสร้างภาษาช่วยเครื่อง Analytical Engine ของ Babbage

18010
Do not try to change the world. Give the world the opportunity to change itself

Edsger Wybe Dijkstra เป็น theoretical physicist และเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง 6 ส.ค. 2002 (อายุ 72 ปี) 

วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

โครงกระดูกมนุษย์ยักษ์สมัยโบราณ





ชายที่สูงที่สุดพบชายที่เล็กที่สุดในโลก





ชายที่สูงที่สุดพบชายที่เล็กที่สุดในโลก (ประชาชาติธุรกิจ)
           นี่คือการเผชิญหน้ากันระหว่างคนสองคน ที่ต้องบอกว่าคุยกันลำบากที่สุด

           การพบกันครั้งแรกของ ซัลตาน โคเซน ชายที่สูงที่สุดในโลกที่ 8 ฟุต 1 นิ้ว หรือประมาณ 246.38 เซ็นติเมตร กับ ฮี ปิงปิง ชายที่ตัวเล็กที่สุดในโลก ที่ 2 ฟุต 5.4 นิ้ว หรือประมาณ 74.68 เซ็นติเมตร ทั้งสองดูมีความสุขขณะโพสท่าให้ช่างภาพ ในงาน Guinness World Records Live! Roadshow ซึ่งมาที่กรุงอิสตันบูล
           โดยโคเซน วัย 27 กล่าวว่า เขาต้องการพบ ปิงปิง มาตลอด นับตั้งแต่ที่เขาได้รับการบันทึกให้เป็นชายที่สูงที่สุดในโลก

           "ผมดีใจที่ ปิงปิง เดินทางมาที่ตุรกี เพื่อว่าเราทั้งคู่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของงานที่เราทั้งคู่ได้รับการบันทึกใน Guinness World Records Live! และผมแทบจะรอไม่ไหวที่จะพาเขาชมเมืองที่สวยงามของผม"
           นอกจากนี้ โคเซน ยังเป็นเจ้าของสถิติมือและเท้า ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยโคเซนได้โค่นเจ้าของสถิติเดิมอย่าง เบา ซิชวน ชายชาวจีนไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยความสูงที่ทิ้งห่างถึง 10 เซนติเมตร



           โคเซนเกิดและเติบโตในจังหวัดมาร์ดินของตุรกี เหตุที่เขามีความสูงขนาดนี้เป็นเพราะฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองผิดปกติ ทำให้เขามีร่างกายที่ใหญ่โตผิดปกติ

           โดยทีมแพทย์ศัลยกรรมได้ทำการช่วยเหลือ ผ่าเอาก้อนเนื้องอกที่ส่งผลต่อการเติบโตของเขาออกหลายครั้ง ร่างกายของโคเซนจึงได้หยุดเจริญเติบโตไปในปี ค.ศ.2008



           ขณะที่ทางด้าน ฮี ปิงปิง วัย 21 ปี ต้องทุกข์ทรมานจากสภาพการเป็นคนแคระ

           พ่อของปิงปิงบอกว่า ตอนเขาเกิดมานั้น ตัวเขาเล็กจนสามารถวางอยู่บนมือของพ่อแม่ได้
           ปิงปิงอยู่กับครอบครัวที่ มองโกเลียใน ประเทศจีน และได้เดินทางไปทั่วโลกนับตั้งแต่ได้รับการจดบันทึกจากกินเนส เวิลด์ เร็คคอร์ด

           ปีที่ผ่านมา ฮี ปิงปิง ได้พบกับ สเวตดาน่า แพนคราโตวา ผู้หญิงที่มีขายาวที่สุดในโลก โดยยาวถึง 51.96 นิ้ว หรือประมาณ 131.98 เซนติเมตร

10 อันดับคนที่สูงที่สุดในโลก

วันนี้เอาเรื่องของคนตัวสูงๆ มาฝาก - ในปัจจุบัน คงต้องขอบคุณการจดบันทึกสถิติและการถ่ายภาพ ทำให้เราสามารถรับรู้ได้ถึงเรื่องราวของคนกลุ่มนึง ที่มีความสูง (มากๆ)
10. Bernard Coyne (8′2″)

Coyne เกิดในปี 1897 ในรัฐไอโอวา, สหรัฐอเมริกา - ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ใบเกณฑ์ทหารระบุว่าเขาสูง 8 ฟุต หนังสือกินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้ว่าเขาปฏิเสธที่จะเข้าร่วมรบในสงคราม เนื่องจากความสูงของเขา ในตอนที่เขาเสียชีวิตในปี 1921 นั้น ว่ากันว่าเขาสูงถึง 8 ฟุต 4 นิ้ว

09. Väinö Myllyrinne (8′3″)

Myllyrinne เกิดในปี 1909 ที่ประเทศฟินแลนด์ ช่วงหนึ่งเขาถูกยอมรับอย่างเป็นทางการว่าเป็นคนที่สูงที่สุดในโลก เมื่อตอนอายุ 21 ปี เขาสูง 7 ฟุต กับอีก 3.5 นิ้ว และหนัก 31 สโตน (1 สโตน มีค่าประมาณ 6.35 กิโลกรัม) แต่ในตอนสุดท้ายเขาสูงถึง 8 ฟุต 3 นิ้ว เขาได้ชื่อว่าเป็นทหารที่ตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เนื่องจากเขาเคยสังกัดในกองทัพฟินแลนด์ เขาเสียชีวิตเมื่อปี 1963

08. Edouard Beaupré (8′3″)

Edouard Beaupré เกิดในปี 1881 เป็นนักแสดงในคณะละครสัตว์ เขาเกิดในประเทศแคนาดา ในช่วงแรกๆ เขาก็มีความสูงปกติเหมือนเด็กทั่วไป แต่เมื่ออายุได้ 9 ขวบ เขาก็สูงถึง 6 ฟุตเข้าไปแล้ว ในตอนที่เขาเสียชีวิตในปี 1904 จากวัณโรค มีการยืนยันว่าเขาสูง 8 ฟุต 3 นิ้ว และยังคงสูงขึ้น ว่ากันว่าเขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่มีความแข็งแรงมาก ในการแสดงเขาสามารถยกม้าที่หนักถึง 900 ปอนด์ ขึ้นไว้บนไหล่ได้

07. Ella Ewing (8′4″)

Ella Ewing เกิดในรัฐมิสซูรี ในปี 1872 เธอได้รับฉายาว่า "ยักษ์แห่งมิสซูรี" (Missouri Giant) เธอเติบโตเหมือนเด็กปกติทั่วไปจนกระทั่งอายุได้ 7 ขวบ ในช่วงนี้เองที่เธอเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ความสูงมากที่สุดของเธอนั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่และเนื่องจากไม่มีการจดบันทึกใดๆ จึงไม่ได้ถูกบันทึกลงในกินเนสบุ๊ค เธอเข้าร่วมแสดงกับคณะละครสัตว์จนกระทั่งเสียชีวิตจากวัณโรคในปี 1913

06. Al Tomaini (8′4.5″)

Al Tomaini ได้ชื่อว่าตัวสูงมากโดยว่ากันว่าเขาสูงถึง 8 ฟุต 4 นิ้ว (แต่กินเนสบุ๊คบันทึกไว้ว่า เขาสูงเพียง 7 ฟุต 4 นิ้ว เท่านั้น) หนัก 356 ปอนด์ (ประมาณ 162 กิโลกรัม: 1 ปอนด์ มีค่าประมาณ 0.45 กิโลกรัม) - Al ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับคณะละครสัตว์ เขาทำงานกับคณะละครสัตว์ที่ชิคาโก้ ในปี 1936 เขาได้พบกับภรรยาชื่อ Jeanie Tomaini ซึ่งเธอเกิดมาโดยที่ไม่มีขาและสูงเพียง 2 ฟุต 6 นิ้ว หลังจากออกจากคณะละครสัตว์ เขาและภรรยาได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ฟลอริด้า

05. Leonid Stadnyk (8′5″)

Leonid Stadnyk เกิดในปี 1971 ที่ประเทศยูเครน เขาได้รับการบันทึกจากกินเนสบุ๊คว่าเป็นคนที่สูงที่สุดในโลกในปัจจุบัน หนังสือพิมพ์พาฟด้า (Pravda) กล่าวว่า สุขภาพของเขาแย่ลงเรื่อยๆ เขาต้องใช้ไม้ค้ำยันเพื่อพยุงเดินไปที่ต่างๆ กลุ่มบรรดานักธุรกิจชาวยูเครนได้มอบจานดาวเทียมและคอมพิวเตอร์แก่ Stadnyk และตอนนี้เขาก็มีอินเตอร์เน็ตใช้ละ

04. John F Carroll (8′7″)

John Carroll เกิดที่บัฟฟาโล่, นิวยอร์ค ในปี 1932 และได้ฉายาว่า "ยักษ์แห่งบัฟฟาโล่" ว่ากันว่าเขามีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็วมาก เขาเสียชีวิตในปี 1969 และไม่ได้มีการวัดความสูงในช่วงเวลานั้น เชื่อกันว่าเขาสูงเกือบๆ จะ 9 ฟุต เลยทีเดียว

03. John Rogan (8′9″)

John Rogan เกิดในปี 1868 เขาเติบโตปกติจนกระทั่งอายุ 13 ปี ความสูงของเขาไม่ได้รับการจดบันทึกอย่างเป็นทางการจนกระทั่งเขาเสียชีวิต ซึ่งมีการบันทึกไว้ว่าสูงถึง 8 ฟุต 9 นิ้ว เนื่องจากเขาไม่ค่อยแข็งแรงนัก เขาจึงหนักเพียง 175 ปอนด์ เขาเป็นชาวอัฟริกัน-อเมริกัน ที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เขาเสียชีวิตในปี 1905 เนื่องอาการโรคแทรกซ้อน

02. Johan Aason (8′ 9-1/4″)

Johan เกิดที่อเมริกาในปีที่แม่ของเขาย้ายมาจากประเทศนอร์เวย์ เขาสูงมากกว่า John Rogan เพียง 1/4 นิ้ว เท่านั้นเอง ที่น่าสนใจคือ แม่ของเขาเองก็ได้ขึ้นชื่อว่าตัวสูงใหญ่เช่นกัน โดยมีความสูงถึง 7 ฟุต 2 นิ้ว - Mendocino State Hospital นั้น กล่าวว่าตอนที่เขาเสียชีวิต เขาสูงถึง 9 ฟุต 2 นิ้ว ซึ่งถ้าหากเป็นความจริงแล้ว เขาจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่สูงที่สุดในโลกทันที

01. Robert Wadlow (8′ 11.1″)

Robert Wadlow คือคนที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด เขาได้ฉายาว่า "ยักษ์จากอัลตัน" (Alton Giant) เนื่องจากเขามาจากเมืองอัลตัน, อิลลินอยส์ - ตอนที่เสียชีวิตนั้น เขาหนัก 440 ปอนด์ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดสูงขึ้น เขาเกิดในปี 1918 เป็นลูกชายคนโตในพี่น้องจำนวน 5 คน เขาเสียชีวิตเมื่ออายุ 22 ปี

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

1 วันไม่ได้มี 24 ชั่วโมง

รู้ไหมว่า- ใน 1 วันไม่ได้มี 24 ชั่วโมงอย่างที่เราคิด ???







ทุกวันนี้ เราเข้าใจกันว่า 1 วันมี 24 ชั่วโมง

ซึ่งมาจากการที่โลกของเราหมุนรอบตัวเอง

1 รอบกินเวลา 24 ชั่วโมงนั่นเอง

แต่ความเป็นจริงแล้ว ยังไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ

โลกของเราเมื่อ 400 ล้านปีก่อน 1 วันมี 22 ชั่วโมงเท่านั้น

และปัจจุบัน โลกของเราหมุนรอบตัวเองไม่ถึง 24 ชั่วโมง

ทำให้ใน 1 วันมีเวลาจริงคือ 23 ชั่วโมง 56 นาที 4 วินาที

หากคำนวณเวลาดูแล้ว ต้องใช้เวลาอีกถึง 15 ล้านปี

กว่าที่โลกของเราจะหมุนรอบตัวเอง 1 รอบในเวลา 24 ชั่วโมง

นั่นหมายถึงว่า จะทำให้ 1 วันมี 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง
....

ส่วนสาเหตุก็มาจากที่โลกหมุนช้าลงวันละ 1/23 ล้านวินาที

อันเนื่องมาจากภาวะน้ำขึ้นน้ำลงในมหาสมุทร

ทำให้เกิดแรงเสียดทานกับผิวโลกที่รองรับน้ำอยู่
..
จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โลกหมุนช้าลงนั่นเองครับ…..

อ้างอิงจาก.http://www.oknation.net/blog/kritwat

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553